การเมือง – ลุ้น!สภาถกกฎหมายลูก15ส.ค. คาดวันเดียวจบ ยืนยันสูตรหาร100คือทางออก

วันเสาร์ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.15 น.

ลุ้น!สภาถกกฎหมายลูก15ส.ค.

คาดวันเดียวจบ

ยืนยันสูตรหาร100คือทางออก

ปชป.เมินสังฆกรรมทำสภาล่ม

พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่15ส.ค.

‘ประธานฯชวน’ขอบคุณทุกฝ่าย

“ประธานฯชวน” ขอบคุณทุกฝ่ายให้โอกาสเปิดประชุมร่วมรัฐสภา 15 สิงหาคมถกกฎหมายลูกเลือกตั้ง ด้าน “สาธิต”ปธ.กมธ.เชื่อองค์ประชุมครบวันเดียวจบ ด้าน “พลังประชารัฐ” โยนให้ไปถามประธานวิปฯจะล่มอีกไหมขณะที่ “องอาจ” ยัน ปชป.พร้อมทำหน้าที่ 15 สิงหาคม ไม่ร่วมสังฆกรรม ทำสภาล่ม ขณะที่ “เพื่อไทย” ลั่นยึดสูตรหาร 100 เป็นทางออกทุกฝ่ายถ้าใช้สูตรหาร 500 ก็ต้องตีความอีก ซัดพรรคใหญ่ดันทุรังพร้อมออกแถลงการณ์ยึดหลักรธน. “เสี่ยหนู” ขนทัพ “ภูมิใจไทย” บุกกระบี่เปิดศึก “ประชาธิปัตย์” “สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง” ประกาศกวาดสส.อันดามัน 11 ที่นั่ง

เมื่อวันที่12 สิงหาคม2565นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่15ส.ค.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จทันตามกรอบ180วันได้หรือไม่ว่า ยังไม่ทราบ แต่ทางวุฒิสภา ได้เลื่อนประชุมวาระอื่นไป ก็ต้องขอขอบคุณที่เปิดโอกาสและขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่’

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐสภาด่วนเพื่อพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง ชี้ชะตาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร500ภายหลังพรรคเล็กขอประชุมเพิ่มก่อนครบเส้นตาย180วันว่าถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันของรัฐสภา ส่วนกลไกและการพิจารณาจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการประชุมวันที่15 ส.ค.

สาธิตเชื่อองค์ประชุมครบก็จบ

“ผมเชื่อว่าขึ้นอยู่กับองค์ประชุม หากองค์ประชุมครบวันเดียวก็แล้วเสร็จทันอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้าที่ที่มีปัญหาเนื่องจากทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันให้ตกไป เพื่อกลับไปใช้ร่างเดิมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ใช้บัตรสองใบและใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์มากขึ้นและมีให้เลือกมากกว่าเดิม”ประธานกมธ.ฯระบุ

เมื่อถามว่า กมธ.เห็นด้วยแล้วใช้หรือไม่ให้กลับไปใช้ร่างเดิมของกกต. นายสาธิต กล่าวว่า ตนเป็นกมธ. เสียงข้างน้อย ซึ่งเดิมที่รับจากสภาไปแก้ให้สอดคล้องหาร 100 แต่ช่วงนั้นเสียงสภาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดนเป็นกลไกของสภา ซึ่งตนก็เห็นด้วยมาตลอดกับสูตรหาร100 เพราะประชาชนมีสิทธิมากขึ้น

“แต่ผลการประชุมในวันที่15ส.ค.นี้ ย้ำว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของส.ส.แต่ละคน ซึ่งวิปต้องประสานกันเพื่อให้ได้เป้าหมายตามต้องการทั้งสามฝ่าย หลังจากนี้วิปสามฝ่ายต้องกลับมาคุยกันว่าเอาอย่างไรแต่ในส่วนของประชาธิปัตย์ มีมติจะต้องเข้าร่วมการประชุมสภาทุกครั้งไม่ว่ากฎหมายใด ส่วนผลการประชุมและองค์ประชุมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันนั้น”นายสาธิต ย้ำ

รับกระทบภาพลักษณ์ของสภา

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลยอมรับกลับไปใช้สูตรหาร 100 แล้วใช่หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็เห็นตรงกันอย่างนั้น แม้วิธีต่างการต่างกัน แต่ตอนนี้เห็นตรงกันแล้วว่าใช้บัตรสองใบและหาร100 ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วมการประชุมนั้นก็เป็นเอกสิทธิ์ รวมทั้งที่พรรคอื่นหรือสมาชิกวุฒิสภาไม่เข้าร่วม ก็เป็นเอกสิทธิ์เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าสภาจะล่มและประชาชนจะรุมตำหนิ นายสาธิต กล่าวว่า ประชาชนมีสิทธิ์ตำหนิถ้าสภาล่ม แต่ทุกฝ่ายต้องพยายามอธิบายและให้ข้อมูลประชาชนเพื่อให้สามารถเข้าใจได้แต่ยอมรับว่ากระทบกับภาพลักษณ์สภาอยู่แล้ว

ยันปชป.เข้าประชุมแน่15สค.

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.กล่าวว่าการประชุมหนนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะไปประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายเลือกตั้งที่ยังค้างอยู่ตามที่ประธานรัฐสภานายชวน หลีกภัย มีหนังสือเชิญประชุม ซึ่งพรรคไม่ได้กำชับอะไรกับ ส.ส. เป็นพิเศษ เพราะที่ประชุม ส.ส. ของพรรค เคยมีมติชัดเจนไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ส.ส. ของพรรคจะเข้าประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ถึงแม้จะมีความพยายามจากบางฝ่ายบางคนบางพรรคต้องการทำให้สภาล่ม เพื่อให้กฎหมายตกไป เพราะพิจารณาเสร็จไม่ทันภายใน 180 วันที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 ส.ค.นี้ก็ตาม

ไม่ร่วมสังฆกรรมทำสภาล่ม

“พรรคประชาธิปัตย์ไม่ขอเข้าร่วมสังฆกรรมทำให้สภาล่มตามความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์เรายึดมั่นในระบบรัฐสภาและเชื่อมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยเหตุนี้ส.ส.ของพรรคจึงเข้าร่วมประชุมรัฐสภาในวันที่15ส.ค.นี้ตามภาระหน้าที่ของเราที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนเต็มกำลังความสามารถอย่างแน่นอน “รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำ

‘สุชาติ’โยนต้องถามปธ.วิปฯ

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมดังกล่าวว่าตนไม่ทราบ ให้ไปถามประธานวิปรัฐบาล คิดว่าเรื่องนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พยายามเปิดอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว อยู่ที่องค์ประชุมร่วมกันทั้งหมดในรัฐสภา ก็ต้องดูว่าวิปรัฐบาลจะหารือกันอย่างไร รอดูข้อสรุปตรงนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นดำริของนายชวน ที่ต้องการให้เปิดประชุมรัฐสภา สมาชิกนิติบัญญัติต้องมานั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไร แต่เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นอย่างไรเนื่องจากไม่ได้อยู่ในวิปรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามที่ กฎหมายกำหนด

‘วราวุธ’รอดูเปิดสภา 15 ส.ค.

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงการประชุม 15 สิงหาคม นี้ เพื่อพิจารณาร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้แล้วเสร็จทันตามกรอบ 180 วัน ได้หรือไม่ ว่า ต้องดูสถานการณ์ในวันที่ 15 ส.ค. อีกครั้งหนึ่ง แต่เข้าใจสิ่งที่ประธานสภาดำเนินการ เพราะตราบใดที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ ซึ่งวันที่ 15 ส.ค. ก็จะเป็นวันสุดท้ายที่จะครบ 180 วัน ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดก็ถือเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่สถานการณ์ในวันที่ 15 ส.ค. คงต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เราก็คงทำตามปกติ โดยพอมีปัจจุบันทันด่วนแบบนี้ ตนเชื่อว่าส.ส. หลายคนก็คงมีการนัดหมายและสิ่งที่ต้องดำเนินการอยู่ แต่ส.ส.แต่ละคนจะดำเนินการอย่างไรส.ส.บางคนอาจติดภารกิจอยู่ แต่จะพยายามมาร่วมให้ทัน เราเพิ่งทราบเมื่อเย็นวันที่11ส.ค.

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของสภาไทย นายวราวุธ กล่าวว่า ก็เข้าใจได้ ถือเป็นสิทธิ์ แต่อย่างที่บอกเราไม่อยากให้สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงรัฐภาต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์และผิดหวัง ซึ่งตรงนี้ก็ต้องกราบขออภัยประชาชนด้วย

“ชาติพัฒนา”ยันไม่เกี่ยงสูตรไหน

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล่าวว่าส่วนพรรคชาติพัฒนา พรรคขนาดกลางเราไม่เกี่ยงว่าจะหาร100หรือ หาร 500 ก็แล้วแต่ที่ประชุมสภา ถ้าสมมุติว่าในการประชุมแล้ว ส.ส.ทุกคนควรตัดสินแล้วว่าควรจะเป็นหาร 100 หรือหาร 500 พรรคชาติพัฒนาก็พร้อมรับ ส่วนที่มีการมองว่าสภาไทยทำได้ทุกอย่างนั้น คิดว่าจริงๆมันก็อยู่ที่กลไก ถึงวันนั้นความคิดต่างๆก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน

ส่วนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร และสาขาพรรคชาติพัฒนากระแสตอบรับดีต่อเนื่องอย่างไรนั้น นายเทวัญ ตอบว่า ที่ผ่านมากระแสตอบรับก็ดี ในจ.นครราชสีมาเริ่มคึกคักขึ้น และมีผู้ที่มีความประสงค์จะสมัครเข้าพรรคชาติพัฒนาก็มากขึ้น

ส่วนก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้จะมีการนำรูปปั้นพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯมาตั้งที่สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนาที่ย้ายมาอยู่ที่จ.นครราชสีมานั้น นายเทวัญ ตอบว่า ใช่ครับ เราจะเอามาไว้ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนาสำนักานใหญ่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อเป็นนขวัญกำลังใจ และส่วนหนึ่งพล.อ.ชาติชายฯท่านเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญของโคราช และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และเคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาถือว่าเป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติมามากมาย และทำความเจริญรุ่งเรืองให้กับจ.นครราชสีมามาอย่างมากมาย

พท.เชื่อสูตรหาร100คือทางออก

ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.)นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคพท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานัดประชุมรัฐสภาวันที่ 15 ส.ค.เพื่อลงมติเกี่ยวกับร่างพรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พรรค พท.จะยังคงแสดงจุดยืนเดิมในการไม่เข้าร่วมองค์ประชุม เพื่อพิจารณาร่างดังกล่าวหรือไม่ ว่า จุดยืนของพรรค พท. คือ 400 กับ 100 เป็นจุดยืนตั้งแต่นำร่างนี้เข้าใหม่ๆ จุดยืนไม่เปลี่ยนแปลง และจะไม่ตามใครด้วย เพราะว่าเชื่อว่าจุดยืนดังกล่าวไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และสอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด

เมื่อถามย้ำว่า จะแสดงจุดยืนออกมาในลักษณะไหน นายประเสริฐกล่าวว่า กำลังคุยกันอยู่ กำลังประเมินสถานการณ์ เพราะว่า พึ่งทราบว่า นายชวน นัดวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.กำลังประเมินสถานการณ์ว่าทางใดที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน และจริงๆ กฎหมายฉบับดังกล่าวที่เป็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยวิธีการหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าใจว่าเหมือนจะฝืนไปในทางนั้น จะเป็นแบบไหนก็ไม่ว่า แต่จะต้องไม่ขัดกับกฎหมายหลัก ไม่ใช่ว่าพรรคใหญ่หรือพรรคเล็กจะเอาก็จะต้องขัดรัฐธรรมนูญได้ ฉะนั้นต้องไม่ขัดกับกฎหมายหลักคือกฎหมายรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวตีความกันไปมาจะไปกันใหญ่ จะเละกว่าเก่า

ถ้าใช้สูตรหาร500ก็ต้องตีความอีก

เมื่อถามว่าหากส่งเรื่องตีความกันไปมาลักษณะนี้จะสามารถออกกฎหมายมาให้ทันกับการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าตนก็กังวลอยู่ ถ้า400กับ100 คิดว่าทัน พอมาใช้สูตร500เดี๋ยวจะต้องมายื่นตีความอีก ก็เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจ ทำไมต้องออกมาในแนวนี้ ทั้งที่มีประตูที่มีให้ออกในทางที่ถูกต้องอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหากใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยวิธีการหาร 500 จริงๆ จะมีลักษณะออกมาอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า 1.ไหนจะตีความ ส.ส.พึงมี 2.เวลาจริง ปฏิบัติไม่ได้ พอมีมีการเลือกตั้งคะแนนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ปาร์ตี้ลิสต์ก็หดเข้าหดออก เป็นปัญหาอย่างมาก

เมื่อถามว่าอาจจะมีปัญหาเหมือนครั้งเลือกตั้งในปี พ.ศ.2562 หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คนหนึ่งอยู่ดีๆเป็นส.ส. แต่หลังจากการเลือกตั้งใหม่ สัดส่วนปาร์ตี้ลิสต์เปลี่ยน ก็ไม่ได้เป็นอีก ตนว่าประชาชนเขาคงเบื่อเพราะว่าในระบบรัฐสภา ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลควรมีเสถียรภาพ ไม่ควรประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมืองเกินไป หลักทั่วโลกเป็นลักษณะนี้ ความเป็นจริงก็ต้องเป็นเช่นนี้ ตัวอย่างเช่นอังกฤษก็มีพรรคแรงงาน (เลเบอร์) กับพรรคอนุรักษ์นิยม (พรรคคอนเซอร์เวทีฟ) และ พรรคกรีน อย่างเก่งก็แค่นี้ ของเราพรรคร่วมรัฐบาล 18 พรรค รู้สึกว่าการเมืองมันถอยหลัง แทนที่จะแก้ให้กฎหมายก้าวหน้ามากขึ้น หรืออยู่ในหลักสากลปฏิบัติได้จริง แต่นี่เหมือนเป็นการทำให้การเมืองอ่อนแอขึ้น ทั้งที่น่าจะเสร็จไปตั้งนานแล้ว

เมื่อถามว่าหากการเมืองไทย และเรื่องความสับสนเรื่องการใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังไม่ลงตัวอยู่เช่นนี้ ทางพรรค พท.จะมีข้อชี้แจงกับประชาชนอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า สมมติออกไปทางสูตรหาร 500 ไม่ใช่หาร 100 แสดงว่ารัฐบาลใช้องคาพยพทุกอย่าง ในการผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการปฏิบัติในอนาคต จะต้องบอกประชาชนว่า เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปการเมืองยังไม่เกิดขึ้น แสดงถึงการอยากสืบทอดอำนาจ

เมื่อถามว่าทางฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตีความในช่วงที่กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งผ่านวาระ 3 ไปแล้ว พรรค พท.มีความเห็นว่าอย่างไร พท.ก็มีแนวคิด พูดมาตั้งนานแล้ว ว่า ถ้าดูแล้วร่าง พ.ร.ป. ประกอบรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญต้องยื่นตีความอยู่แล้ว ต้องทำความเห็นประกอบไปด้วย

เมื่อถามย้ำว่าจะยื่นไปที่ กกต. ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี กกต. กับศาลรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูเพื่อความรอบคอบ เพราะว่าร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เสนอเข้ามาร่างแรก คือ ร่าง กกต. กกต. คงออกแบบไว้ดีอยู่แล้ว ตอนตั้งท้องมีลักษณะเช่นนั้น แต่ตอนจะคลอดออกมาก็เป็นไปอีกอย่าง มันก็ผิดปกติ งงมากเลย

ยื่นตีความเก้าอี้8ปีนายกฯบี๊กตู่

เมื่อถามว่าวันที่ 17 ส.ค.จะยื่นตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีวาระครบ 8 ปีหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพราะว่ากฎหมายกำหนดว่าให้ยื่นต่อประธานรัฐสภา ส่วนเรื่องตีความรับธรรมนูญ ก็ต้องมาดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไรในวันที่ 15 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้กำหนดไว้ หลังจากที่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนี้ได้ผ่านรัฐสภาแล้ว อาจต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเห็น

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคพท.อยากให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.ขึ้นมาเป็นรักษาการณ์นายกรัฐมนตรี แทน พล.อ.ประยุทธ์ มีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มีดีล ไม่เคยมีการดีล ตนรับรอง แต่ถ้านายกออก 8 ปี ตามที่คิดไว้ กระบวนการมีอยู่แล้วว่าต้องเอาคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีมาก่อน ไม่เห็นต้องให้ พล.อ.ประวิตร รักษาการณ์แทนเลย ยกเว้นคนในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเพียงพอ

เมื่อถามย้ำว่า หาก พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีจริงๆ จะมีลักษณะอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็ขึ้นแค่รักษาการนายรัฐมนตรี ปกติการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ ก็ไม่ใช่ทำได้เต็มที่ เหมือนกับนายกรัฐมนตรีจริงๆ

‘สมคิด’อัด‘เสียงข้างมาก’ดันทุรัง

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)กล่าวว่ากรณีที่การประชุมร่วมรัฐสภาล่มในวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา บรรดาพรรคการเมือง ออกมาโจมตีสมาชิกรัฐสภาทั้งส.ว.และส.ส.ว่าเป็นเหตุให้สภาล่ม อยาก ชี้แจงว่าบรรดา ส.ว.และส.ส.ที่มีส่วนทำให้สภาล่ม เพราะนักการเมืองทุกคน อยากให้มีการออกกฎหมายให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยืนยันมาตลอดว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมามีเสียงข้างมากเกเรพาออกนอกทาง จนถึงเวลานี้ก็ดันทุรังจะเอาให้ได้ เพราะฉะนั้นบรรดาส.ส.และส.ว.จะดึงกฎหมายลูก เข้าสู่กติกาที่ถูกต้อง แต่คนที่พาออกนอกทางต่างหากที่กำลังทำผิดหลัก กฎหมายทั้งๆที่รับร่างแก้ไขกฎหมายไปทั้ง 4 ฉบับ ไม่มีบรรทัดใดเลยที่ให้ หารด้วย 500 พวกท่านเกเร เราไม่เห็นด้วยจึงไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย

พร้อมออกแถลงการณ์ยึดหลักรธน.

นายสมคิด กล่าวอีกว่าล่าสุด นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดประชุมด่วนในวันที่15สิงหาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ กฎหมาย ประกอบ รัฐธรรมนูญจะครบวาระ180วัน ทั้งๆที่การกระทำ ดังกล่าว ต้องไปหักวุฒิสภาที่มีการออกวาระการประชุมไว้แล้ว ซึ่งรัฐสภาจะเอาอย่างนั้นหรือ

“กฎหมายฉบับนี้มันชัดเจนว่าขัดกับหลักการของกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น พรรคเพื่อไทยจะออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ เพื่อชี้แจงในกรณีดังกล่าว เพราะพรรคเพื่อไทยยึดหลัก การของกฎหมายมาโดย ตลอดไม่อย่างนั้นรัฐสภาจะมั่วไปหมด ถ้าไม่ยึดหลักการในรัฐสภา แล้วออก กฎหมายจะมีประโยชน์อะไร หรือจะยึดตามการถูกครอบงำ ซึ่งรัฐสภาเป็นที่ทำงาน ของผู้แทนประชาชน ไม่ควรมีใครมาครอบงำ หากเป็น เช่นนั้น ไม่ใช่สภาผู้แทนราษฎรแต่เป็นสภาของเผด็จการอย่างนั้นหรือ” นายสมคิด กล่าว

‘อุตตม’วอนส.ส.หยุดเล่มเกม

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกรณีสภาล่ม ระบุปัจจุบันบ้านเมืองอยู่ในภาวะหัวเลี้ยวหัวต่อ เผชิญวิกฤตและความเสี่ยงรอบด้าน ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง หนี้สินพอกพูน หากินยากลำบาก ซึ่งประชาชนต่างหวังว่าฝ่ายการเมืองจะทุ่มเทในการดูแลแก้ไขปัญหาให้อย่างเร่งด่วนและจริงจัง แต่ปรากฎว่าหลายคนกลับต้องมาเสียความรู้สึกกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสภาครั้งนี้ ซึ่งความคิดเห็นในมุมมองของประชาชน สูตรคำนวณสส. จะหาร 100 หรือหาร 500 คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุด แต่กระบวนการพิจารณากฎหมายที่ล่มซ้ำซาก คงต้องตั้งคำถามว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคการเมืองในสภา ตามวิถีทางประชาธิปไตยที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ อีกทั้งการกระทำดังกล่าวนั้น เป็นการใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้และใช้ภาษีของประชาชนไปในทางที่เหมาะสมแล้วหรือ

“ผมขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองในสภา ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อประชาชนที่ได้มอบความไว้วางใจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสภาอันทรงเกียรติ หวังให้ทำหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม มิใช่เพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมคิดว่าในภาวะวิกฤตที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เราต้องช่วยกันทุกวิถีทาง ที่จะรักษาไว้ซึ่งศรัทธาของประชาชนที่มีต่อฝ่ายการเมือง” นายอุตตม กล่าว

ภท.โวกวาดสส.อันดามัน11ที่นั่ง

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กระบี่ และ จ.พังงา ในวันที่ 13 ส.ค.ว่า ในสวนของจ.กระบี่ พรรคภูมิใจไทยส่งผู้สมัครลง 3 เขต ก็ตั้งเป้าไว้ทั้ง 3 เขต โดยคัดบุคคลที่มีประวัติดีเข้าถึงประชาชน วันนี้มั่นใจ 90% และมั่นใจว่าภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแลนด์สไลด์ ส.ส.กลุ่มจังหวัด 6 จังหวัด คือ จ.กระบี่ พังงา ระนอง สตูล ตรัง และภูเก็ต ซึ่งขณะนี้เรามีส.ส. 4 คน คือ กระบี่ 2 คน ระนอง 1 คน และสตูล 1 คน ซึ่งนี้ชาวพังงา เรียกร้องว่าต้องการมีส.ส.แบบ จ.ระนอง และจ.กระบี่ เราจะแลนด์สไลด์ด้วยผลงาน

“ประชาชนให้โอกาสพรรคเก่ามา 30 ปี เขาไม่มีความคาดหวังกับพรรคการเมืองเดิมเลย ไม่มีผลงาน ได้ฟังแต่นิทาน ทั้งนี้ ในส่วนของฝั่งอันดามัน เราตั้งเป้าไว้ 11 ที่นั่ง คือ กระบี่ 3 คน ระนอง 1 คน พังงา 2 คน ภูเก็ต 2 คน สตูล 2 คน ตรัง 1 คน” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะกวาดเก้าอี้ส.ส.ภาคใต้ 35-40 ที่นั่ง นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า จะไปกวาดได้อย่างไร เพราะแค่บ้านเกิดของตัวเองจ.พังงา 2 ที่นั่ง ยังไม่รับผิดชอบ แต่มอบหมายให้คนอื่นดูแล